ผู้ส่งบทความ1 | อาจารย์รัชพล รอดชมภู | |
หน่วยงาน | โรงเรียนสาธิตศึกษาศาสตร์ ระดับประถมศึกษา | |
วัน/เดือน/ปี | วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2557 | |
เวลา | 22:12:21 น. | |
หัวข้อบทความ | ท่านใดที่ตรวจสุขภาพแล้วมีค่าการทำงานของตับที่เริ่มสูงกว่าปกติ เชิญหันมาใช้สมุนไพรกันดีกว่า | |
บทความ |
ตับ อวัยวะที่สำคัญของร่างกาย มีหน้าที่อะไรบ้าง 1.ตับเป็นอวัยวะที่สร้างสารต่างๆที่สำคัญ เช่นไข่ขาวหนือ albumin ช่วยอุ้มน้ำให้อยู่ในหลอดเลือด หากไข่ขาวในเลือดต่ำ จะทำให้เกิดอาการบวมเท้า ท้องมาน 2.ตับเป็นอวัยวะที่ผลิตน้ำดี และเกลือน้ำดีเพื่อช่วยย่อยสลายไขมัน โดยน้ำดีจะถูกขับออกทางเดินอาหารทำให้อุจาระสีเหลือง หากทางเดินน้ำดีอุดตันอุจจาระจะมีสีขาว 3.ตับเป็นอวัยวะที่สะสมพลังงานเช่น glucose และวิตามิน 4.ตับเป็นโรงงานผลิตพลังงานให้ร่างกาย โดยสลายสารอาหารให้ร่างกาย เมื่อตับป่วยจึงรู้สึกเพลียมาก 5.ตับมีหน้าที่กำจัดของเสีย ของเสียที่ร่างกายเราได้มาจากอาหาร หรือสารที่เรารับเข้าไป เช่นยา แอลกอฮอลล์ กาแฟ หรือสารที่เป็นพิษ และอีกส่วนหนึ่งมาจากการย่อยหรือสลายสารอาหาร เมื่อสารพิษผ่านตับ 6.ตับจะทำหน้าที่ทำลายสารพิษนั้น แต่หากเราได้รับสารพิษมาก ก็อาจจะทำให้ตับเสียหายได้ 7.ตับเป็นที่อยู่ของเม็ดเลือดเพื่อดักจับเชื้อโรค พฤติกรรมหลักๆ ที่ทำให้ตับเสื่อม ประกอบไปด้วย การนอนดึกและตื่นสาย การไม่ปัสสาวะในตอนเช้า การทานจุเป็นประจำ การไม่รับประทานอาหารเช้า การบริโภคยามากเกินไป การบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย สีผสมอาหาร วัตถุปรุงแต่งและน้ำตาลเทียม การบริโภคน้ำมันที่ใช้ทำอาหาร ซึ่งด้อยคุณภาพและไม่เป็นประโยชน์ ถ้าหากคุณสามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันในการทอดอาหาร ซึ่งรวมถึงการใช้น้ำมันที่ดีที่สุดที่ใช้ทำอาหารเช่นน้ำมันมะกอก จงหลีกเลี่ยงการบริโภคของทอดเมื่อคุณมีอาการเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย ยกเว้นถ้าร่างกายคุณแข็งแรงดี ทั้งนี้ เราจะมีวิธีดูแลตับของเราได้อย่างไรบ้าง เคล็ดลับง่ายๆ ที่ได้รับการแนะนำก็คือ เรื่องของช่วงเวลา ดังนี้ 1.ช่วงเวลากลางคืน 3-5 ทุ่ม เป็นระยะเวลาที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษต่างๆ โดยระบบต่อต้านเชื้อโรคในร่างกาย (ระบบหมุนเวียนของน้ำเหลืองในร่างกาย) ช่วงเวลานี้ควรจะต้องถูกใช้ไปในการพักผ่อนหรือผ่อนคลายด้วยกิจกรรมอื่นใด 2.ช่วงเวลากลางคืน 5 ทุ่ม-ตี 1 เป็นเวลาที่จะเกิดกระบวนการกำจัดสารพิษในตับ ซึ่งควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท ในช่วงเช้าระหว่างเวลาตี 1 ถึง ตี 3 นั้น กระบวนการกำจัดสารพิษในน้ำดีก็ควรจะเป็นช่วงแห่งการนอนหลับสนิทเช่นกัน 3.ช่วงเวลาตี 1-ตี 3 การกำจัดสารพิษในปอด เพราะฉะนั้น อาจจะมีอาการไออย่างรุนแรง สำหรับผู้ที่มีปัญหาการไอในช่วงเวลาดังกล่าว ตอนนี้กระบวนการกำจัดสารพิษ จะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแล้ว และก็ไม่จำเป็นที่คุณจะใช้ยาแก้ไอ เพื่อที่จะได้ไม่ไปขัดขวางขั้นตอนการกำจัดสารพิษในร่างกาย 4.ช่วงเช้า ตี 5-7 โมงเช้า จะเป็นช่วงที่ร่างกายกำจัดสารพิษในปลายลำไส้ใหญ่ ดังนั้นเราจึงควรขับถ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ 5.ช่วงเช้า 7-9 โมงเช้า เป็นเวลาที่สารอาหารจะถูกดูดซึมสู่ลำไส้เล็กได้ดี ดังนั้น เราจึงควรทานอาหารเช้าในช่วงนี้และท่องไว้เลยว่า การนอนดึกตื่นสาย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอในช่วงกลางคืนนั้นคือ สิ่งที่ทำร้ายตับอย่างถึงที่สุด |
|
แนบแฟ้มข้อมูล | 109798-a-1992557183624-stomachache.jpg | |
109798-a-2292557161256-image.jpg | ||
109798-a-2292557161256-img_Infographic_2204201405(2).jpg | ||
109798-a-19112557221233-up salary 2558.jpg | ||
109798-a-19112557221117-Untitled20141119223032.jpg | ||
จำนวนผู้อ่าน 2 คน | ||