ผู้ส่งบทความ1   
  
หน่วยงาน ไม่สามารถระบุได้
วัน/เดือน/ปี วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2551
เวลา 10:46:41 น.
หัวข้อบทความ ความลับ
บทความ “ความลับ”

ประมาณช่วงปี 2549-2550 มีหนังสือชื่อ เดอะซีเคร็ต เขียนโดย รอนดา เบิร์น เป็นหนังสือที่โด่งดังและขายดีมากในสหรัฐอเมริกา ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือนขายได้ถึง 5 ล้านเล่มเหตุที่หนังสือเล่มนี้ขายดี เพราะเชื่อกันว่า เป็นหนังสือที่เปิดเผยความลับที่ยิ่งใหญ่ว่า
“ความคิดมีแรงดึงดูด” ซึ่งชาวตะวันตกตื่นเต้นและตื่นตัวกันมากเพราะถือว่าเป็นการค้นพบทฤษฎีใหม่ (ทฤษฎีกฎแรงดึงดูดของความคิด) ที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อมนุษยชาติ ถึงขนาดเทียบความยิ่งใหญ่ของการค้นพบนี้ กับ การค้นพบกฎแรงดึงดูดของนิวตัน และทฤษฎีของไอสไตน์ ทำให้ รอนดา เบิร์น ผู้เขียน เดอะซีเคร็ต กลายเป็นหนึ่งในร้อยคนที่นิตยาสารไทม์ ยกย่องว่าเป็นผู้มีอิทธิพลต่อโลก
ต่อมาปี 2551 มีการพิมพ์หนังสือชื่อ “เดอะท๊อปซีเคร็ต” เขียนโดยคนไทยคือ ทันตแพทย์สม สุจีรา (คนหนุ่มไฟแรง มีประวัติน่าสนใจ) หนังสือนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วและกว้างขวางมากในเมืองไทย ถึงขนาดพิมพ์ 8 ครั้งในเดือนเดียวทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะ หนังสือเดอะท๊อปซีเคร็ตได้หยิบยกประเด็นสำคัญจาก หนังสือเดอะซีเคร็ตมาอธิบายให้เกิดความกระจ่างว่า กระบวนการทำงานของพลังความคิดทำงานอย่างไร โดยผู้เขียนได้ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยามาวิเคราะห์และใช้ประสบการณ์ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มาสรุปลงท้ายด้วยหลักของพุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เหตุนี้เองจึงทำให้คุณหมอสม สามารถอธิบายสิ่งที่เหนือกว่าความลับในเดอะซีเคร็ตนั่นคือ สุดยอดของความลับ ในเดอะท๊อปซีเคร็ตได้อย่างชัดเจน
ต่อไปนี้เป็นบางส่วนบางตอน จากหนังสือเดอะท๊อปซีเคร็ต
1. ชีวิตมีทิศทางที่กำหนดไว้แล้วตามรางแห่งความรู้สึก
2. ความรู้สึกเป็นเรื่องของจิต ความคิดเป็นเรื่องของสมอง แต่ทั้งสองสิ่งนี้เกี่ยวพันกันอย่างแนบแน่น เพราะความรู้สึก เกิดจากการรวมตัวกันของความคิดจำนวนมากนั่นเอง
3. ความคิดสามารถส่งพลังออกมาภายนอกได้ก็ต่อเมื่อความคิดนั้นได้เปลี่ยนแปลงเป็นความรู้สึกแล้ว
4. หลายความคิดมาต่อรวมกันเป็นภาพแห่งความรู้สึก หลายความรู้สึกมาหลอมรวมกัน กลายเป็นอารมณ์ อารมณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆกันหลายครั้งจะก่อให้เกิดอุปนิสัย อุปนิสัยหลายๆอย่างรวมกันจะกลายเป็น เจตนารมณ์ ซึ่งเหมือนการสะสมของสันดอนแม่น้ำ
5. มนุษย์มีสิ่งล้ำค่าอย่างหนึ่ง ที่จะคอยดูแลควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก ตลอดจนถึงความคิด สิ่งนั้นคือ สติสัมปชัญญะ
6. ความคิดบวก จะมีแรงดึงดูดความคิดบวก ทำให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ รวมทั้งได้รู้จักคบหากับมิตรสหายที่ดี สุขภาพร่างกายที่ดี ในทางตรงกันข้าม ความคิดลบก็จะมีแรงดึงดูด ความคิดลบ หากคิดไม่ดีโอกาสที่จะได้พบกับสิ่งไม่ดีก็มีมาก รวมไปถึงศัตรูและแม้สุขภาพร่างกายของตนเองก็เช่นกัน
7. ความรู้สึกลบและอารมณ์ต่างๆ เช่น กลัว เกลียด อิจฉาริษยา รัก โลภ โกธร หลง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีเหตุและปัจจัย มาจากพลังกรรมที่สะสมอยู่ในภวังคจิต มานานนับหมื่นนับแสนชาติ
8. ความคิดคือกรรมปัจจุบัน ความรู้สึกคือกรรมเก่า สามารถระงับได้ ด้วยการเจริญสติ เปลี่ยนความคิดซึ่งเป็นกรรมปัจจุบันให้เป็นบวก
9. ควบคุมความคิด ความรู้สึกด้วยเจริญสติ แม้ว่ากระบวนการของความคิดและความรู้สึกจะเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ถ้าฝึกบ่อยๆก็สามารถตามทันกระแสความรู้สึก และบันดาลให้เป็นไปในทิศทางที่เราประสงค์ได้
10. หมั่นใช้ปัญญาวิเคราะห์ความรู้สึก ว่าจะเหนี่ยวนำให้ความคิดเป็นบวกหรือลบ เช่น ความรู้สึกให้อภัย จะเหนี่ยวนำให้คิดบวก ความรู้สึกแค้นจะเหนี่ยวนำให้คิดลบ ความรู้สึกอยากเรียนจะเหนี่ยวนำให้คิดบวก ความรู้สึกเกียจคร้านจะเหนี่ยวนำให้คิดลบ ฯลฯ เพียงเจริญสติดูความรู้สึกของตัวเองสัก 1 ชั่วโมง เราทุกคนจะรู้แล้วว่าตัวเองมีกรรมดีหรือกรรมชั่วฝังอยู่ในตัวมากน้อยเพียงใด

เดอะท๊อปซีเคร็ต เลขหมู่หนังสือ BQ4570.T56 ส231 (Main)



 
 
แนบแฟ้มข้อมูล 107834-a-262551104534-the top.doc 
 
 
 
 
 
จำนวนผู้อ่าน 1 คน

[หน้าแรก] [รวมบทความ]